🛡️ วิธีปิดตัวบล็อกโฆษณา (และเหตุผลที่คุณอาจจำเป็นต้องปิดชั่วคราว)
ปัจจุบันมีตัวบล็อกโฆษณามากมายให้เลือกใช้ ทั้งในรูปแบบของส่วนขยายเบราว์เซอร์ และแอปพลิเคชันแยกต่างหากสำหรับแต่ละระบบปฏิบัติการ แม้ว่าตัวบล็อกโฆษณาจะช่วยให้การท่องเว็บปลอดภัยและเร็วขึ้น แต่บางครั้งอาจส่งผลข้างเคียง เช่น ทำให้บางส่วนของหน้าเว็บไม่โหลด
คู่มือนี้จะอธิบายการทำงานของตัวบล็อกโฆษณา และแนะนำวิธีปิดชั่วคราวในอุปกรณ์และเบราว์เซอร์ยอดนิยม
🔍 ตัวบล็อกโฆษณาทำงานอย่างไร
การซ่อนองค์ประกอบ (Hiding Elements) บางตัวบล็อกจะซ่อนองค์ประกอบของหน้าเว็บ เช่น <div> หรือ iframe ที่ระบุว่าเป็นโฆษณา ซึ่งอาจทำให้มีช่องว่างหรือส่วนที่โหลดไม่สมบูรณ์บนหน้าเว็บ
การบล็อกคำขอ (Request Blocking) เมื่อหน้าเว็บโหลด ตัวบล็อกจะตรวจสอบคำขอทุกครั้ง (script, image, iframe) กับรายการโดเมนโฆษณา/ตัวติดตาม หากพบตรงกันจะบล็อกทันที
การแทนที่ (Replacement) บางครั้งช่องโฆษณาถูกแทนที่ด้วยโฆษณาที่ผ่านการรับรอง (whitelist) แต่ส่วนใหญ่จะเว้นไว้เป็นช่องว่างหรือสีเทา
❓ ทำไมคุณอาจต้องปิดตัวบล็อกโฆษณาชั่วคราว
-
ส่วนสำคัญของเว็บถูกบล็อกผิดพลาด เช่น:
-
ฟอร์มสมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ
-
ปุ่มชำระเงิน/สคริปต์ชำระเงิน
-
ภาพหรือวิดีโอที่ฝังไว้
-
เว็บไซต์ไม่ทำงาน บางเว็บไซต์จะไม่โหลดเนื้อหา หากตรวจพบตัวบล็อกโฆษณา
-
ทดสอบโดยนักพัฒนา นักพัฒนาเว็บอาจต้องปิดตัวบล็อกเพื่อดูการทำงานของเว็บโดยไม่มีการแทรกแซง
📝 คำแนะนำ: ปิดเฉพาะชั่วคราวเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ควรเปิดใช้งานกลับหลังใช้งานเสร็จ
⚙️ วิธีปิดตัวบล็อกโฆษณาในเบราว์เซอร์ยอดนิยม
- Google Chrome
- ไปที่ การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > การตั้งค่าเว็บไซต์ > โฆษณา
- ปิด “บล็อกโฆษณาบนเว็บไซต์ที่แสดงโฆษณาหลอกลวง”
- หรือเพิ่มเว็บไซต์ที่อนุญาตให้แสดงโฆษณา
- Mozilla Firefox
- ไปที่ การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > การป้องกันการติดตามขั้นสูง
- เลือกโหมด: ปกติ / เข้มงวด / กำหนดเอง
- หากเลือก “กำหนดเอง” ให้ยกเลิกการบล็อก “เนื้อหาที่ติดตาม” เพื่อโหลดโฆษณามากขึ้น
- Microsoft Edge
- ไปที่ การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว การค้นหา และบริการ > การป้องกันการติดตาม
- เลือกระดับ: พื้นฐาน / สมดุล / เข้มงวด
- เพิ่มเว็บไซต์ที่อนุญาตใน “การจัดการข้อยกเว้น”
🔧 วิธีปิดส่วนขยายบล็อกโฆษณา
Chrome / Edge
- ไปที่ เมนู ⋮ > ส่วนขยาย > จัดการส่วนขยาย
- ปิดหรือถอดติดตั้งตัวบล็อกที่คุณใช้ (เช่น uBlock, AdBlock Plus)
Firefox
- ไปที่ ☰ > ส่วนเสริมและธีม > ส่วนขยาย
- คลิก “ปิดใช้งาน” หรือ “นำออก”
Safari (macOS / iOS)
- ไปที่ Safari > การตั้งค่า > ส่วนขยาย
- ยกเลิกการเลือก หรือ “ถอนการติดตั้ง”
💡 ทิป: เปิดหน้าต่างแบบไม่ระบุตัวตน แล้วปิดส่วนขยายเฉพาะแท็บนั้นเพื่อทดสอบ
🌐 วิธีอนุญาตให้แสดงโฆษณาบนเว็บไซต์เฉพาะ
uBlock Origin
- คลิกไอคอน uBlock → คลิกปุ่มเปิด/ปิด (🟢 → เทา)
- รีเฟรชหน้าเว็บ
AdBlock Plus / Ghostery
- คลิกไอคอนส่วนขยาย → เลือก “อนุญาตโฆษณาบนเว็บไซต์นี้”
- รีโหลดหน้า
Chrome (ตั้งค่าในเบราว์เซอร์)
- การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > การตั้งค่าเว็บไซต์ > โฆษณา > อนุญาตให้แสดงโฆษณา
- เพิ่ม URL ของเว็บไซต์
🚀 iBrowe แก้ปัญหานี้อย่างไร
iBrowe เป็นเบราว์เซอร์ที่มาพร้อมระบบป้องกันแบบครบวงจร ไม่ต้องติดตั้งส่วนขยายเพิ่มเติม:
- บล็อกโฆษณาและตัวติดตาม โดยค่าเริ่มต้น
- ป้องกันการ fingerprinting เช่น canvas, WebGL
- บล็อกคุกกี้จากบุคคลที่สาม
- อัปเกรด HTTPS อัตโนมัติ
- แดชบอร์ดความเป็นส่วนตัว: แสดงจำนวนที่ถูกบล็อกบนแต่ละหน้า
✅ ติดตั้ง iBrowe แล้วท่องเว็บแบบปลอดภัย รวดเร็ว และไม่มีโฆษณา — โดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม
🔗 สรุปสิ่งสำคัญ
- ตัวบล็อกโฆษณาทำงานโดยบล็อกคำขอหรือซ่อนองค์ประกอบของหน้า
- ปิดชั่วคราวเมื่อเว็บไม่แสดงบางฟีเจอร์สำคัญ
- ใช้การ whitelist แทนการปิดทั้งระบบ
- iBrowe ให้ความเป็นส่วนตัวในตัว ไม่ต้องพึ่งส่วนขยาย
หากคุณเบื่อโฆษณาป๊อปอัป แบนเนอร์ หรือการติดตามออนไลน์ ลองดาวน์โหลด iBrowe เพื่อท่องเว็บแบบเงียบสงบ ปลอดภัย และไร้ร่องรอยตั้งแต่วันแรก 🎉